ชื่อสถานศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช
ที่ตั้ง 147 หมู่ที่ 4 ถนนท่าเทียบเรือ ตำบลปากพนังฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
รหัสไปรษณีย์ 80140
โทรศัพท์ 075 444212 , 075 370759
โทรสาร 075 370740
เว็บไซต์ www.nasic.moe.go.th
กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2530 เพื่อพัฒนาความรู้ทักษะและความสามารถเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ใช้ในการประกอบอาชีพแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและสนองความต้องการของตลาดแรงงานในการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ โดยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการเงินกู้กองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งญี่ปุ่น (OECF) เพื่อใช้ในการจัดซื้อครุภัณฑ์สำหรับการเรียนการสอน ปัจจุบันได้เปิดการเรียนการสอนทั้งระดับ ปวช. และ ปวส. ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรมประเภทวิชาบริหารธุรกิจสาขาการจัดการขนส่ง และหลักสูตรเทียบเท่าปริญญาตรีนักเรียนเดินเรือพาณิชย์ฝ่ายช่างกล (หลักสูตรพิเศษ)
เป้าหมายการพัฒนา
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช มีเป้าหมายดังนี้
1. จัดการศึกษาในระบบ โดยเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ , ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และระดับปริญญาตรี
2. จัดการศึกษานอกระบบ โดยการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรระยะสั้น เพื่อยกระดับฝีมือให้กับบุคคลทั่วไป
วิสัยทัศน์ ปรัชญา พันธกิจ วิทยาลัย
วิสัยทัศน์ของสถานศึกษา
“ มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นสถาบันการศึกษาที่เป็นเลิศด้านวิชาชีพเฉพาะทางเพื่อสนองความ
ต้องการของชุมชน ประเทศชาติสู่ระดับสากล ”
ปรัชญาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
พันธกิจ
1. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพ ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ
2. ผลิตกำลังคนในระดับช่างฝีมือเข้าสู่งานอุตสาหกรรมการต่อเรือและพาณิชยนาวี
3. ปลูกฝังให้บุคลากรมี คุณธรรม จริยธรรม ในการระกอบวิชาชีพและภาคภูมิใจในการ
ประกอบวิชา
4. เป็นศูนย์กลางบริการทางวิชาชีพและเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม
5. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6. ส่งเสริมสนับสนุนในการพัฒนาวิชาชีพให้ชุมชน
7. สนับสนุนการวิจัย เพื่อการพัฒนาวิชาชีพ
หลักสูตรและระดับที่เปิดสอน
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช เปิดทำการสอนใน 3 ระดับ คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตรเทียบเท่าปริญญาตรี ใน ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม
1. หลักสูตรระดับ ปวช. ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม
- สาขางานต่อเรือ - สาขางานยานยนต์
- สาขางานเครื่องมือกลและซ่อมบำรุง - สาขางานโลหะการ
- สาขางานไฟฟ้ากำลัง - สาขางานอิเล็กทรอนิกส์
- สาขางานเมคคาทรอนิกส์
2. หลักสูตรระดับ ปวส. ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม
- สาขางานต่อเรือ - สาขางานยานยนต์
- สาขางานเครื่องมือกลและซ่อมบำรุง - สาขางานโลหะการ
- สาขางานไฟฟ้ากำลัง - สาขางานอิเล็กทรอนิกส์
- สาขางานเมคคาทรอนิกส์ - สาขางานเทคโนโลยีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
- สาขางานบริหารธุรกิจ (การจัดการขนส่ง)
3. หลักสูตรพิเศษเทียบเท่าปริญญาตรี
- นักเรียนเดินเรือพาณิชย์
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช ได้ใช้ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิผลตามมาตรฐานการศึกษาของกรมอาชีวศึกษา 7 มาตรฐาน 43 ตัวบ่งชี้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา โดยมีกลไกในการกำกับติดตามคุณภาพอย่างชัดเจนตั้งแต่ระดับครูผู้สอน ให้รายงานติดตามคุณภาพของผลงานของตน หัวหน้างานกำกับติดตามงานในระดับฝ่ายงาน คณะกรรมการกำกับคุณภาพติดตามมาตรฐานงานตามตัวบ่งชี้ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีการดำเนินการกำกับติดตามและรายงานผลการติดตามอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การกำกับติดตามของรองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการศึกษา และหัวหน้าประกันคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ทำให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายตามแผนพัฒนา และพันธกิจที่กำหนดสอดคล้องเกณฑ์มาตรฐานสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)
จุดเด่นของสถานศึกษา
1. ผู้บริหารสถานศึกษามีความรู้ความสามารถ มีภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์มีการสร้างเครือข่าย
ประชาคมอาชีวศึกษา
2. สถานศึกษา มีการบริการที่มีคุณภาพสามารถพัฒนาสถานศึกษาไปสู่การเป็นสถาบันการศึกษาที่
ผลิตกำลังคนเฉพาะทางด้านการพานิชยนาวีตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานและสอดคล้อง
กับนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
3. สถานศึกษามีอุปกรณ์ เครื่องมือและครุภัณฑ์การศึกษา ให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติที่ทันสมัยและ
เพียงพอ
จุดที่สถานศึกษาควรพัฒนา
1. ควรพัฒนาศูนย์วิทยบริการมีสื่อการเรียนรู้ให้หลากหลายและเพียงพอกับจำนวนผู้เรียน
2. สภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาควรปรับปรุงพัฒนาให้มีความร่มรื่น สวยงามและมีพื้นที่พักผ่อน
หย่อนใจของนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น
3. ควรประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลและผลงานของสถานศึกษาออกสู่สาธารณชน
4. ควรจัดทำวิจัยสถาบันที่สามารถจะนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาได้
5. ควรมีเครือข่ายประชาคมอาชีวศึกษาที่เป็นสมาคมศิษย์เก่าหรือสมาคมผู้ปกครองเข้ามาร่วมเสริม
สร้างความเข้มแข็งและร่วมพัฒนาสถานศึกษา
การพัฒนาสถานศึกษาในอนาคต
สถานศึกษาควรพัฒนาไปสู่การเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาเฉพาะทางเน้นการจัดการเรียนการสอนด้านพาณิชยนาวีในสาขาวิชาต่าง ๆ และควรพัฒนาสถานศึกษาในด้านบุคลากรผู้สอน ครุภัณฑ์ อาคารสถานที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดสอนระดับปริญญาตรี
ข้อเสนอแนะในการพัฒนาระยะสั้น
1. ควรตรวจ กำกับ ติดตาม นักศึกษา ที่เข้าเรียนใหม่ เพื่อลดการออกกลางคันของนักศึกษา
2. ควรดำเนินการติดตามนักศึกษาที่เรียนจบแล้วมีงานทำ หรือเรียนต่อเพื่อตรวจสอบประสิทธิผลการ
จัดการศึกษา
3. ควรพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความพร้อมและทันต่อเทคโนโลยี
4. ควรพัฒนานักเรียน นักศึกษา ส่งเสริมในด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้มากขึ้น